Best practice
Best Practice การดำเนินงานศูนย์ให้การปรึกษาคุณภาพ (Psychosocial Clinic)
การพัฒนางานการให้การปรึกษาโรคเอดส์จากแบบเดี่ยวเป็นแบบคู่
ในแผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย
บริบทการให้การปรึกษาโรคเอดส์โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย
การปรึกษาโรคเอดส์ในหญิงตั้งครรภ์ของคลินิกฝากครรภ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานส่งเสริมสุขภาพมารดาและทารก เพื่อคัดกรองป้องกันโรคที่สามารถถ่ายทอดไปสู่ทารกในครรภ์ได้ โดยเฉพาะด้านการให้การปรึกษาโรคเอดส์ ที่มีการพัฒนางานขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ตั้งแต่ยังไม่มีนโยบายรองรับ คือกระบวนการการให้คำปรึกษาแบบคู่(ทั้งสามีและภรรยาต้องมาพร้อมกัน)แทนการให้คำปรึกษาแบบเดี่ยว (เฉพาะหญิงตั้งครรภ์)เพื่อเป้าหมายการดูแลทั้งครอบครัว ซึ่งกว่าจะเป็นแนวทางปฏิบัติ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย และปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานหลายรูปแบบจนบรรลุผลเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน การพัฒนางานการให้คำปรึกษาโรคเอดส์ในคลินิกฝากครรภ์ ดังนี้
แรงกระตุ้นให้เกิดการพัฒนางานการให้การปรึกษาโรคเอดส์จากแบบเดี่ยวเป็นแบบคู่ของคลินิกฝากครรภ์
ปี 2551-2554 การบริการให้การปรึกษาเน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ครั้งแรกไม่รวมสามี เมื่อผลเลือดผิดปกติ เป็นความยากลำบากในการแจ้งผลเลือดแก่คู่สมรส ต้องส่งพบบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการให้การปรึกษาและขาดความต่อเนื่องในการติดตามข้อมูลของหญิงตั้งครรภ์และคู่สมรส
ปี 01/2555 มอบหมายผู้รับผิดชอบคลินิกฝากครรภ์ เข้าร่วมอบรม แนวทางการให้คำปรึกษาแบบคู่ จัดโดยศูนย์อนามัยที่ 9 เพื่อรับทราบโยบายและแนวทางปฏิบัติ ทำให้ผู้รับผิดชอบคลินิกฝากครรภ์ ได้ทบทวนรูปแบบกระบวนการให้บริการและปรึกษาหัวหน้าหน่วยงานคลินิกพิเศษ ในการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมเป็นระยะๆ
ปี 10/2555 ศูนย์อนามัยที่ 9พิษณุโลก นิเทศติดตามประเมินผลการดำเนินงานในการให้คำปรึกษาแบบคู่ พบว่ารูปแบบกระบวนการให้บริการชัดเจน แต่ผลลัพธ์ยังไม่เป็นรูปธรรม
ปี 1/11/2555 การให้การปรึกษาแบบคู่ กำหนดเป็นตัวชี้วัดงานฝากครรภ์ ตามแนวทางโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว
ขั้นตอนการดำเนินงาน (เริ่มตั้งแต่ ปี 2555-ปัจจุบัน)
1. ประเมินตนเองของคลินิกฝากครรภ์ในการให้คำปรึกษาจากผลการทำงานที่ผ่านมา พบว่า
–
–
–
–
–
–
2. การดำเนินงานเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ
ขั้นที่ 1: วางแผนดำเนินงานจัดให้มีการให้คำปรึกษาแบบคู่ (1/02/ 2555
ผล ไม่สามารถจัดบริการได้ เนื่องจาก
1. มีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรในหน่วยงาน
2. ต้องใช้ระยะเวลาตามมาตรฐาน อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป
- หญิงตั้งครรภ์และคู่สมรสไม่ให้ความร่วมมือ เพราะใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน
- หน่วยงานคลินิกพิเศษ มีความหลากหลายของงานที่รับผิดชอบซึ่งต้องเตรียมล่วงหน้าในแต่ละวัน จึงมีผลกระทบต่องานในวันถัดไป
ขั้นที่ 2: จัดทำโครงการให้คำปรึกษาแบบคู่ แบบนำร่อง (1/07/2555)
รูปแบบการให้การปรึกษาแบบคู่โดยในวันที่หญิงตั้งครรภ์มารับฟังผลเลือดต้องพาสามีมาด้วย
การดำเนินงานไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เนื่องจาก
1. สามีมาพร้อมกับหญิงตั้งครรภ์มีจำนวนน้อย
2. เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปรับเวลาให้การปรึกษาแบบคู่แก่หญิงฝากครรภ์ครั้งแรกได้
3. การให้การปรึกษาแบบคู่ไม่ได้เริ่มตั้งแต่กระบวนการก่อนเจาะเลือด ทำให้ต้องใช้เวลามากและเสี่ยงต่อสภาพจิตใจผู้ที่มีผลเลือดผิดปกติ
ขั้นที่ 3: จัดทำโครงการพัฒนางานฝากครรภ์ตามแนวทางโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว (1/04/56 ) โดย ปรับรูปแบบบริการ (หนึ่งในการปรับ คือ การให้การปรึกษาแบบคู่)
พบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาแบบคู่ คือ
1. จำนวนหญิงตั้งครรภ์รายใหม่มาฝากครรภ์ในวันจันทร์น้อยมาก หญิงตั้งครรภ์ยังคงมาฝากครรภ์ ในวันอังคารและวันศุกร์ (วันเดิม) เป็นจำนวนมาก
2. เจ้าหน้าที่มิได้ให้คำปรึกษาแบบคู่
3. สามีของหญิงตั้งครรภ์ไม่ได้มาพร้อมกับหญิงตั้งครรภ์ในการมาฝากครรภ์ครั้งแรก
4. เจ้าหน้าที่มีภาระงานมากคงเดิมไม่มีเวลาในการให้คำปรึกษา
5. ให้การปรึกษาแบบคู่ได้ในวันแจ้งผลเลือดหญิงตั้งครรภ์
สรุปผล เกี่ยวกับการให้คำปรึกษาแบบคู่ คือ จำนวนผู้เข้ารับการปรึกษาแบบคู่น้อยกว่าร้อยละ50
ขั้นที่ 4 : เสนอแนวทางปรับปรุงการพัฒนางาน ในคลินิกฝากครรภ์(1/11/56 )
โดย ประชุมหารือในแผนก สรุปว่าจุดอ่อนของการทำงาน ที่ทำไม่ได้ผลในอดีต
ผลการดำเนินงานการให้คำปรึกษาแบบคู่ ( 1/10/56 – ปัจจุบัน)
สรุป จำนวนผู้รับการปรึกษาแบบคู่และยินยอมตรวจเลือด คิดเป็นร้อยละ 92.44
แนวคิดทำงานสำเร็จได้โดย :(สรุปจากประสบการณ์ทำงาน)
1. จุดเริ่มต้นในงานคือจุดเริ่มแรกของความสำเร็จ
2. คิดแล้วลงมือทำทันที
3. มีโอกาสต้องรีบทำอย่าปล่อยผ่าน
4. อุปสรรคทำให้เกิดการพัฒนา
5. ท้อได้แต่อย่าถอย /หยุดพักเมื่อเหนื่อย
6. การทบทวนปัญหา ทำให้พบหนทางใหม่ๆแห่งการพัฒนา
7. ผู้บังคับบัญชาทุกระดับคือแรงสนับสนุนของความสำเร็จ
8. ความสำเร็จที่ทำได้ยาก จะมอบความภาคภูมิใจอย่างมากตอบแทน
9. การพัฒนางานคือการไม่หยุดอยู่กับที่